บทความที่ได้รับความนิยม

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560

ิประวัติและกติกาบาส



➤ ประวัติและกติกาบาสเกตบอล  
(History & Rules of Basketball)
ประวัติบาสเกตบอล

          การถือกำเนิดขึ้นของกีฬาบาสเกตบอลเกิดขึ้นที่เมืองสปริงฟิลรัฐแมสซาชูเซส ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อ ค.ศ. 1891 (พ.ศ. 2434)โดย ดร.เจมส์ ไนสมิธ อาจารย์พละศึกษาของโรงเรียนคนงานคริสเตียน
(ปัจจุบันเป็นวิทยาลัยสปริงฟีล) ต้องการให้มีการแข่งขันกีฬาในร่มช่วงฤดูหนาว พร้อมกับกำหนดกติกา

5 ข้อ สำหรับการเล่น 

กติกาบาสเกตบอล
  1. ต้องใช้มือเล่นลูกบอล

  2. แต่ห้ามถือบอลวิ่ง

  3. ผู้เล่นสามารถยืนได้ทุกพื้นที่ของสนาม

  4. ผู้เล่นห้ามปะทะหรือถูกตัวกัน

  5. จะมีห่วงติดตั้งไว้เหนือพื้นสนามกับเส้นเขตสนาม สูงจากพื้นประมาณ 10 ฟุต

บาสเกตบอล

          ต่อมาทาง ดร.ไนสมิธ ได้กำหนดหลักการเล่นเพิ่มเติม จำนวน 13 ข้อ ซึ่งกลายเป็นกติกาพื้นฐานของบาสเกตบอลในปัจจุบัน ได้แก่

           1. สามารถโยนลูกบอลไปที่อื่นด้วยมือทั้ง 2 ข้างหรือมือเดียว

           2. สามารถตีลูกบอลได้ทั้งมือเดียวหรือ 2 มือ แต่ห้ามใช้กำปั้นทุบบอล

           3. ห้ามถือลูกบอลวิ่ง

           4. ต้องถือลูกบอลด้วยมือ แขน หรือลำตัว แต่ห้ามดึงลูกบอล

           5. ห้ามดัน ผลัก ฝ่ายตรงข้าม

           6. การกระทำตามข้อ 3-5 ถือว่าเป็นการฟาล์ว

           7. หากผู้เล่นทีมเดียวฟาล์วติดต่อกัน 3 ครั้ง ให้นับคะแนนแก่ฝ่ายตรงข้าม

           8. นับคะแนนเมื่อลูกบอลเข้าห่วงไปแล้ว หรือยังค้างที่ก้านห่วง แต่ผู้เล่นฝ่ายป้องกันไปสัมผัส
                  หรือกระทบประตู ก็นับคะแนนให้เช่นกัน

           9. หากลูกบอลออกนอกสนามให้ส่งบอลเข้ามาเล่นในจุดที่บอลออก

           10. กรรมการผู้ร่วมตัดสิน (Umpire) มีหน้าที่คอยจดบันทึกการฟาวล์ และคอยช่วยผู้ตัดสิน
                   ในด้านสถิติต่าง ๆ ทำให้ตัดสินได้ถูกต้องมากขึ้น

           11. ผู้ตัดสิน (referee) มีหน้าที่ตัดสินในสนามในจังหวะต่าง ๆ, จับเวลา, ให้คะแนน
                   เมื่อเกิดการทำแต้ม, บันทึกคะแนน ฯลฯ

           12. การแข่งขันแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 5 คะแนน โดยมีเวลาพักครึ่ง 5 นาที

           13. เมื่อจบการแข่งขัน ฝ่ายใดทำแต้มได้มากกว่าเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าเสมอกัน 
                   ก็ต้องเล่นต่อจนกว่าจะมีฝ่ายใดทำแต้มได้

          นอกจากนี้ ดร.ไนสมิธ ยังเป็นผู้เริ่มผลักดันบาสเกตบอลให้เป็นกีฬาระดับมหาวิทยาลัย
จนสามารถตั้งเป็นลีกระดับมหาวิทยาลัยได้ ในปี ค.ศ. 1938 (พ.ศ. 2481) ต่อมา ค.ศ. 1946
(พ.ศ. 2489) บาสเกตบอลเอ็นบีเอ จึงได้ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งถือเป็นการแข่งขันระดับอาชีพ
ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

กฎและกติกาบาสเกตบอล 

บาสเกตบอล

 สนามที่ใช้ในการแข่งขัน

          มีขนาดทั้งหมด 28 คูณ 15 เมตร ขณะที่ในกรอบเขตโทษมีรัศมีเมื่อนับจากแป้นบาสยาว 6.25 เมตร

บาสเกตบอล

 ลูกบาสเกตบอล

          มีเส้นรอบวงประมาณ 30 นิ้ว (76 เซนติเมตร) มีน้ำนักประมาณ 1 ปอนด์ (600 กรัม)

 แป้นบาสเกตบอลและห่วง

          10 ฟุต (3.05 เมตร) เมื่อนับจากพื้นไปถึงขอบห่วง และตัวแป้นนี้จะถัดเข้ามาจากเส้นหลัง 4 ฟุต (1.2 เมตร)

 จำนวนผู้เล่น

          มีผู้เล่นฝั่งละ 5 คน ส่วนตัวสำรองสูงสุดทีมละ 7 คน ซึ่งการเปลี่ยนตัวนั้นสามารถเปลี่ยนตัวได้ไม่จำกัด โดยจะเปลี่ยนได้ในช่วงที่บอลตายเท่านั้น

บาสเกตบอล

 วิธีการและข้อบังคับในการเล่น

           ต้องเคลื่อนที่ลูกบอลไปข้างหน้าด้วยการเลี้ยงลูกด้วยมือข้างเดียว คือให้ลูกกระเด้งพื้นขณะที่วิ่ง และมือจะต้องอยู่เหนือลูกเท่านั้น หากอยู่ในองศาอื่นถือว่าเป็นการถือลูก นอกจากนี้ยังห้ามเตะหรือชกลูกบาสเกตบอลอีกด้วย

           หากนำบอลขึ้นมาอยู่ในแดนฝั่งตรงข้ามได้แล้ว ห้ามส่งลูกกลับเข้าแดนตัวเอง

           ภายใน 8 วินาทีที่ได้บอล ผู้เล่นจะต้องนำลูกเข้าสู่แดนฝ่ายตรงข้ามให้ได้ และต้องชู้ตภายใน 24 วินาที

           หากผู้เล่นคนใดคนหนึ่งฟาล์วรวม 5 ครั้งภายในเกม ผู้เล่นคนนั้นจะไม่สามารถเล่นเกมนั้นได้อีก ต้องออกจากสนาม เรียกว่า (foul out)

 เวลาที่ใช้ในการแข่งขัน

          แบ่งเป็น 4 ควอเตอร์ต่อเกม ควอเตอร์ละ 10-12 นาที แล้วแต่ประเภทของการแข่งขัน ขณะที่การแข่งขันในช่วงต่อเวลา จะมีความยาว 5 นาที ทั้งนี้ การจับเวลาของบาสเกตบอล จะหยุดเวลาเมื่อบอลตาย ดังนั้นการแข่งขันบาสเกตบอลจึงใช้เวลามากกว่า 50 นาทีต่อเกมการแข่งขัน

 การนับคะแนน

          หลักการเล่นที่สำคัญที่สุดของกีฬาบาสเกตบอล นั่นคือ การทำแต้มด้วยการโยนลูกบอลเข้าห่วงของคู่แข่งให้มากกว่า และพยายามป้องกันไม่ให้คู่แข่งโยนลูกบอลเข้าห่วงของตัวเอง โดยที่การโยนลูกบอลเข้าห่วงในพื้นที่นอกเขตโทษ จะได้ 3 คะแนน, ในเขตโทษได้ 2 คะแนน และจุดโทษได้ 1 คะแนน

          จากข้อมูลทั้งหมดนี้ เป็นประวัติความเป็นมาและกติกาการเล่นคร่าว ๆ ของบาสเกตบอล อย่างไรก็ตาม ด้วยกฎกติกาเช่นนี้เอง ทำให้กีฬาบาสเกตบอลมีความสนุกสนาน เพราะแต่ละทีมต้องเปิดเกมรุกใส่กันตลอด ทำให้คนดูต้องรับชมแบบตาไม่กระพริบกันเลยทีเดียว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
kspook, wikipedia และ educatepark.com

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ15 พฤษภาคม 2561 เวลา 01:14

    ขอบคุณสำหรับกติกาครับ ได้รับความรู้ดีดี

    goldenslot
    gclub
    goldenslot

    ตอบลบ